31 ตุลาฯ วันออมแห่งชาติเว็บไซต์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ภาพ logo website จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

31 ตุลาฯ วันออมแห่งชาติ

ผู้เขียน:  ณัฏฐนันท์ ทองนุ่น จาก สำนักงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เมื่อวันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 15:59 น.

 อ่าน 3,461

         วันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี ต้องถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งในการพัฒนาประเทศไทย เพราะเป็นวันออมแห่งชาติ


*ประวัติความเป็นมาของวันออมแห่งชาติ*


         ในสหรัฐอเมริกา วันที่ 26 เมษายนของทุกปี เป็นวัน National Teach Children to Save Day หรือวันสอนเด็กๆ ให้รู้จักการออมเงินแห่งชาติ ซึ่งเป็นวันที่เจ้าหน้าที่จากธนาคารหรือสถาบันการเงินทั่วประเทศจะเข้าไปสอนเด็กๆ ในโรงเรียน ให้มีทักษะในการจัดการการเงินส่วนบุคคล และปลูกฝังให้เด็กๆ เห็นความสำคัญของการออมเงินเพื่ออนาคตที่มั่นคง มีข้อมูลจาก American Bankers Association ว่าในปี 2005 นี้ มีธนาคารและสถาบันการเงินเข้าร่วมโครงการนี้ มากกว่า 2,500 แห่ง ซึ่งสามารถสอนเด็กๆ ได้กว่า 321,000 คน ทั่วประเทศ
         สำหรับประเทศไทยคณะรัฐมนตรีมีมติให้วันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี เป็น “วันออมแห่งชาติ” เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีนิสัยรักการออม รวมทั้งเพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการออมเงิน


*ความสำคัญของการออม*


     เรื่องการออมเงิน ต้องถือเป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติ ที่ผู้หลักผู้ใหญ่ต้องให้ความสำคัญ เพราะเงินออมไม่เพียงแต่จะสร้างความมั่นคงส่วนบุคคล หรือส่งเสริมความสงบเรียบร้อยทางสังคม แต่ยังช่วยลดการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศเพื่อนำมาลงทุนในโครงการต่างๆ ซึ่งจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเป็นไปอย่างแข็งแกร่ง เราในฐานะสมาชิกคนหนึ่งในสังคมไทย เราก็สามารถช่วยชาติได้ ด้วยการสอนเด็กๆ ให้รู้จักการออมเงิน และปลูกฝังให้เด็กๆ มีวินัยทางการเงิน การสอนเด็กๆ ให้รู้จักวิธีการเก็บออมอย่างชาญฉลาด ทำได้ไม่ยากอย่างเช่น ทุกครั้งที่ให้เงินเด็กๆ ต้องสอนให้เด็กๆ เก็บเงินให้เพียงพอก่อน แล้วเงินส่วนที่เหลือจากการเก็บออม จึงค่อยนำไปใช้จ่าย
       ตามปกติคนไทยมักจะสอนลูกหลานให้รู้จักใช้จ่ายอย่างประหยัด เราจึงมักกำชับเด็กๆ เสมอ เวลาให้สตางค์ไปกินขนมว่า ให้ใช้เงินประหยัดๆ และเหลือมาเก็บไว้บ้าง แต่เด็กๆ มักจะลงเอยที่ไม่มีเงินเหลือกลับมาเก็บเลย เพราะทั้งขนม ทั้งของเล่นมันมีเสน่ห์ดึงดูดให้เสียสตางค์ได้ทุกครั้งไป แล้วเด็กๆ ก็จะตั้งใจว่า ไม่เป็นไร คราวหน้าค่อยเก็บเงินก็ได้ เผลอแป็บเดียวกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่มีเงินออมไปซะแล้ว
       กุศโลบาย ในการสร้างแรงจูงใจ ให้เด็กๆ อยากออมเงินให้ได้มากๆ อีกข้อหนึ่งที่ได้ผลเสมอ ก็คือ กำหนดเงื่อนไขการออมว่า หากเด็กๆ เก็บเงินได้ 90 บาท เราจะเติมให้เป็น 100 บาท และหากจะเพิ่มเงื่อนไขให้เด็กๆ ตั้งเป้าหมายในการออมเงินด้วย ก็จะเป็นการสอนที่สมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง
      เมื่อเด็กๆ โตขึ้น ต้องให้เขารู้จักบริหารเงินของตัวเอง โดยการให้เงินเป็นรายสัปดาห์ หรือรายเดือน แล้วสอนให้เขารู้จักวางแผนการออมเงิน และแผนการใช้จ่ายเงินล่วงหน้า รวมทั้งสอนให้รู้จักวางแผนเผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เมื่อเด็กๆ ทำได้ตามแผนการที่วางไว้ เราควรชื่นชมและแสดงความภูมิใจในผลสำเร็จนั้น
      การสอนให้เด็กๆ เห็นความสำคัญของการวางแผนและการจัดการทางการเงิน ถือเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญยิ่ง เพราะในทุกๆ กิจกรรมในชีวิต มักมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ การเรียนรู้เรื่องเงินๆ ทองๆ อย่างถูกต้อง ไม่ใช่เป็นไปเพื่อการสร้างความมั่งคั่ง ร่ำรวย แต่เป็นไปเพื่อการสร้างความสุขและความสมดุลในชีวิต หากเราจัดการให้เกิดความสมดุลในชีวิตไม่ได้ เราอาจจะกลายเป็นทาสของเงินไปตลอดชีวิต การทำงานที่ควรจะเป็นไปเพื่อสร้างคุณค่าและการพัฒนาตนเอง ก็จะกลายเป็นการทำงานเพื่อหาเงิน
 

*วันที่เหมาะสมในการปลูกฝังวินัยการออม*


      วัยที่เหมาะสมที่สุดในการสร้างหรือปลูกฝังวินัย คือวัยเด็ก ถ้าอยากเห็นประเทศชาติพัฒนาอย่างยั่งยืน คงต้องร่วมมือร่วมใจกัน ส่งเสริมวัฒนธรรมการออมให้เกิดขึ้นทั้งกับเด็กๆ และตัวเราเอง …31 ตุลาคม วันออมแห่งชาติมีออม ไม่มีอด ... ไม่อด ถ้ามีออม

แหล่งที่มา : http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/วันออมแห่งชาติ


คำค้นหา
 
comments powered by Disqus
ข่าวในประเภทประชาสัมพันธ์
ข่าวโดยสำนักงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ข่าวล่าสุด
สนใจมากสุดในรอบเดือน
เข้าชมล่าสุด