Page 111 - มฤดกกรุงเก่า | The Old Capital’s Heritage
P. 111
บานตู้พระธรรม วัดศาลาปูนวรวิหาร (ช�ารุดบางส่วน)
ื
ี
ลวดลายบนตู้แบ่งเป็นสามช่วง ช่วงล่างเขยนเร่อง
เวสสันดรชาดกกัณฑ์ที่ ๔ วนประเวศน์ จับเอาตอนที่
พระเวสสันดรทรงบวชเป็นดาบส พระนางมัทรีเป็น
ดาบสินี พระราชโอรสชาลี พระราชธิดากัณหาได้บวช
ตาม ไปบาเพ็ญศีลด้วยกันที่อาศรมในป่า ณ เขาวงกต
�
�
ั
ป่าน้นอุดมด้วยผลไม้นานาชนิด มีสระโบกขรณีนา
้
ิ
ื
สะอาดใสเย็น มีพฤกษาร่มร่นและมีดอกไม้ส่งกล่น
หอมหวนราวกับวิมานทิพย์ พระนางมัทรีต้องปัดกวาด
้
อาศรมทุกวัน แล้วจึงไปหาผลไม้ในป่า ตักน�ามาเตรียมไว้
ท่มุมล่างจะเห็นดาบสพระเวสสันดรกาลัง
�
ี
ตู้พระธรรม วัดศาลาปูนวรวิหาร (ช�ารุด) ฐานสิงห์ สอยผลไม้ ดาบสินีพระนางมัทรีหาบคอนกระบุงคอย
ศิลปะอยุธยาตอนปลาย เหลือภาพอยู่ด้านเดียว เก็บผลไม้นั้น ส่วนท่อาศรม มีเหล่ากินรีน้อยใหญ่
ี
มาเล่นซ่อนหากับกัณหา ชาลีก็ชมนกชมไม้เล่นอยู่กับ
กินรีแม่ลูก แสดงจินตนาการของช่างว่าเขาวงกตนั้น
เปรียบเหมือนเชิงเขาคันธมาทน์ในป่าหิมพานต์ ย่อม
ี
ี
มีสัตว์น้อยใหญ่และสัตว์หิมพานต์ท่มีจิตใจดร่วม
อยู่ด้วย ภาพตอนน้กินเนื้อท่ของลวดลายไปเกือบคร่ง ึ
ี
ี
ของบานตู้ ก่อนจะแบ่งช่วงกลางภาพโดยใช้โขดหิน
เขามอและเส้นสินเทา
ึ
เหนือข้นไปช่างใช้ลูกเล่นเขียนลายประดิษฐ์
ั
ิ
บานต้พระธรรมฐานสงห์จากรป อย่างใหม่ โดยผสมผสานลายด้งเดิมกับลายเทศ
ู
ู
ด้านบน เขียนเป็นภาพสัตว์ ได้อย่างกลมกลืน ท่น่าสนใจคือช่างได้เขียนก้านลาต้น
�
ี
หิมพานต์ (ไก่ฟ้า) และสัตว์ท่ม ี (อย่างต้นไผ่) เป็นแนวไว้ ออกช่อลายแล้วท่ปลายยอด
ี
ี
ั
ี
อยู่จริงตามธรรมชาติประกอบ ยังต่อเป็นวิมานให้เป็นท่สถิตของเทวมหาราชท้ง ๔
ลายกระหนกไฟพะเนียงและลาย หรือท้าวจตุโลกบาลด้านบนสุดได้แนบเนียน นับเป็น
พันธุ์พฤกษาเป็นลวดลายเฉพาะ สกุลช่างอยุธยาที่ไม่มีใครเหมือน
ในศิลปะอยุธยาตอนปลายเท่าน้น
ั
109