นพ.สมพงษ์ บุญสืบชาติ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เตือนประชาชนให้ระวังอุบัติเหตุที่มักเกิดขึ้นในช่วงอุทกภัย จากปริมาณน้ำฝนที่มากอยู่ในขณะนี้ทำให้มีน้ำท่วมบ้านเรือนของประชาชนในบางพื้นที่ สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนจำนวนมาก ประชาชนควรระมัดระวังอุบัติเหตุที่มักเกิดขึ้น ได้แก่ จมน้ำ ไฟดูด การบาดเจ็บจากการเหยียบของแหลมหรือของมีคม รวมทั้งอันตรายจากสัตว์มีพิษ เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง ซึ่งหนีน้ำขึ้นมาอาศัยในบริเวณบ้านเรือนซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
จากมหาอุทกภัยในปี 2554 พบว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ “การจมน้ำ” เพื่อเป็นการป้องกันตนเองไม่ให้จมน้ำ หากจำเป็นต้องเดินทางหรือทำกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นวิถีชีวิต ควรเตรียมอุปกรณ์ชูชีพให้พร้อม โดยสามารถทำอุปกรณ์ชูชีพได้จากอุปกรณ์ที่สามารถหาและทำได้ง่าย เช่น การนำแกลลอนคู่คล้องใต้รักแร้ทั้ง 2 ข้าง หรือถ้าพบคนตกน้ำ หากต้องลงไปช่วย ควรมีอุปกรณ์ เช่น ถังแกลลอน ให้คนที่ตกน้ำเกาะเพื่อพยุงตัวเข้าหาฝั่ง และเป็นการป้องกันไม่ให้คนตกน้ำกอดรัดคนที่ลงไปช่วย อีกสาเหตุหนึ่งที่สำคัญของการเสียชีวิตในช่วงอุทกภัยนั้น คือ “ไฟฟ้าดูด” เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลในครอบครัวถูกกระแสไฟฟ้าดูดควรรถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้า สับคัทเอาท์ตัดไฟฟ้าในบ้านในจุดที่คิดว่าน้ำท่วมถึง
นพ.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า กรณีถูกสัตว์มีพิษกัดต่อยนั้น เมื่อถูกสัตว์หรือแมลงมีพิษกัดควรมีการดูแลตนเองเบื้องต้นด้วยการล้างแผลด้วยน้ำสะอาด เคลื่อนไหวร่างกายให้น้อยที่สุดโดยเฉพาะบริเวณที่ถูกกัด ไม่ควรขันชะเนาะเพราะอาจทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นขาดเลือดไปเลี้ยง รีบนำผู้ประสบเหตุส่งสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดโดยเร็ว และห้ามกรีดแผล ห้ามดูดแผล ห้ามใช้ไฟหรือไฟฟ้าจี้ที่แผล ห้ามโปะน้ำแข็ง ห้ามพอกสมุนไพร ห้ามดื่มสุรา และไม่ควรทานยาแก้ปวดที่มีส่วนผสมของแอสไพริน ตัวอย่างเช่น ประสะนอแรด, ไวดุล, เอเอ็นที, ทัมใจ, หัวสิงห์
ในกรณีถูก “ผึ้ง ต่อ แตน” กัดต่อยให้ดึงเอาเหล็กในออก หลังทาด้วยแอมโมเนียหรือครีมไตรแอมซิโนโลน ส่วนในกรณีถูกตะขาบหรือแมงป่องกัด ให้ทาแผลด้วยแอมโมเนียหรือครีมไตรแอมซิโนโลนเช่นกัน ไม่ว่าจะถูกสัตว์มีพิษชนิดใดกัด หากมีอาการปวดมากหรือมีอาการแพ้ เช่น หนังตาบวม หายใจไม่สะดวกให้รีบพบแพทย์ด่วน
นอกจากสัตว์มีพิษที่กล่าวมาแล้ว “ปลิง” เป็นสัตว์อีกชนิดที่มากับน้ำ หากถูกปลิงกัดให้ใช้น้ำเกลือเข้มข้น (น้ำผสมเกลือแกง) หรือใช้ไม้ขีดไฟหรือบุหรี่ที่จุดไฟแล้วจี้ที่ตัวปลิงให้หลุดออกจากแผล แล้วทำความสะอาดแผลด้วยยาฆ่าเชื้อเบตาดีน โดยเช็ดวนจากด้านในออกสู่ด้านนอก หรือใช้ “ใบสาบเสือ” ที่ล้างสะอาดขยี้ปิดปากแผล
ซึ่งไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม หากประชาชนท่านใดต้องการความช่วยเหลือด่วน สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากบุคลากรทางการแพทย์ทางสายด่วน 1669 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
