ในวันเสาร์ที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๐.๐๐ น. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะทำพิธีเปิดพื้นที่นำร่องปฏิบัติการตามโครงการ "ชุมชนอุ่นใจได้ลูกหลานกลับคืน" ที่ชุมชนไผ่เขียว อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจะมีการถ่ายทอดทางไกลด้วยระบบ Video Conference กับนายกรัฐมนตรี ในวันดังกล่าว
โดยดำเนินการพร้อมกับ อีก ๑๑ แห่งทั่วประเทศ
๑. ชุมชนในกรุงเทพฯ รวม ๓ แห่ง ได้แก่ ชุมชนคลองเตย ๗๐ ไร่ และล็อก ๑-๖ท้องที่ สน.ท่าเรือ ชุมชนฟื้นนครร่มเกล้าระยะ ๑ โซน ๗ ท้องที่ สน.ร่มเกล้า และชุมชนบ้านสมเด็จท้องที่ สน.บางยี่เรือ
๒.ชุมชนในต่างจังหวัด อีก ๘ แห่ง ประกอบด้วย ๑.ชุมชนบ้านมาบสามเกลียว อ.เมือง จ.ชลบุรี ๒.ชุมชนบ้านหนองตะลุมปุ๊ก อ.เมือง จ.นครราชสีมา ๓.ชุมชนบ้านหนองปลาเข็ง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ๔.ชุมชนบ้านโป่งน้อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ๕.ชุมชนเสือทิม อ.เมือง จ.พิษณุโลก ๖.ชุมชนบ้านแหลมชะอุย อ.บางเลน จ.นครปฐม ๗.ชุมชนบ้านเหนง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี และ ๘.ชุมชนบ้านทุ่งโพธิ์ อ.นาหม่อม จ.สงขลา
ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ ได้ประกาศ "ยุทธการปิดล้อมเอกซเรย์เชิงรุก ๙๐ วัน"
ภารกิจแรก คือ โครงการ "ชุมชนอุ่นใจได้ลูกหลานกลับคืน "โดย ป.ป.ส.เป็นเจ้าภาพดำเนินการ เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ยังคงตกค้างอยู่ตามชุมชนเสี่ยง ๑๒ แห่ง ซึ่งเป็นชุมชนนำร่องทุกหน่วยงานและทุกภาคส่วนในสังคม จะเข้าไปมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมนุมตลอด ๒๔ ชั่วโมง
ตลอดทั้ง ๙๐วัน มีการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพและติดตามช่วยเหลืออย่างครบวงจร สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม เป้าหมายคือสามารถเอาชนะยาเสพติดได้อย่างยั่งยืน
ในแต่ละชุมชนจะติดตั้งกล้องวงจรปิดและตั้งด่านตรวจตราบริเวณโดยรอบชุมชน มีตำรวจสายตรวจเดินเท้าออกตรวจตราระมัดระวังดูแลเหตุร้ายตลอด ๒๔ ชั่วโมง ระดมกำลังกวาดล้างจับกุมผู้ค้ารายย่อย
การคัดกรองผู้เสพที่เป็นผู้ป่วยเพื่อฟื้นฟูบำบัดรักษา ดูแลเด็กและเยาวชนกลุ่มเสี่ยงเพื่อหลีกพ้นยาเสพติด ติดตามดูแลผู้ป่วยหลังการบำบัด ตลอดจนช่วยเหลือเกี่ยวกับการจ้างงานในระดับต่างๆ เพื่อยุติสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชนจะช่วยให้คนในชุมชนอุ่นใจมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ได้ลูกหลานที่เคยเป็นทาสยาเสพติดหรือข้องแวะเกี่ยวกับยาเสพติดกลับคืนสู่อ้อมอกของพ่อแม่ และเป็นกำลังสำคัญของชาติต่อไปในอนาคต
