นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย มร.มุศฎอฟา นัจญาริยอน ซอเดะห์ ที่ปรึกษาฝ่ายวัฒนธรรม และผอ.ศูนย์วัฒนธรรม สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งอิหร่าน นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมกันแถลงข่าว การจัดงานเทศกาลความสัมพันธ์ อยุธยา – อิหร่าน ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 17 - 19 พฤษภาคมนี้ ที่ ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาหลังเก่า ณ อนุสรณ์สถานณ์แห่งความจงรักภักดี (ทุ่งหันตรา)
งานนี้จะเป็นงานสำคัญระดับชาติอีกงานหนึ่งทางประเทศอิหร่านจะส่งรัฐมนตรี ส่งผู้นำทางศาสนามาร่วมในพิธีสักการะหลุมฝังศพของท่านเฉกอะหมัด จุฬาราชมนตรีคนแรกของประเทศไทย และเป็นเสนาบดีที่สำคัญในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นต้นตระกูลบุนนาค ต้นตระกูลจุฬารัตน์ ต้นตระกูลบุญยรัตกลิน ซึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในประเทศไทยในขณะนี้ โดยอิหร่านจะจัด V.I.P หรือคณะผู้บริหาร ผู้นำของประเทศมาร่วมเฉลิมฉลองท่านเฉกอะหมัดกับเรา โดยมีมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยาเป็นเจ้าภาพ ในงานนี้จะเปิดห้องอิหร่านเป็นห้องนิทรรศการ เรียกกันว่าห้องอิหร่าน รวมถึง จะเปิดการศึกษาคณะอิสลามศึกษาที่มหาวิทยาลัยอโยธยา การจัดงานครั้งนี้จัดขึ้น ที่หน้าศาลากลางจังหวัดหลังเก่า ตั้งแต่วันที่ 17 - 19 พ.ค.
โดยในส่วนการจัดงานเทศกาลความสัมพันธ์ อยุธยา – ศรีลังกา จัดขึ้นใน วันที่ 21-23 พ.ค. ที่ วัดมหาธาตุ ภายใต้กิจกรรม "วิสาขบูชา อยุธยา มหาพุทธานุภาพ” มี พลเอก ซานต้าโกตเต โกด้า เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทย พร้อมภริยา และผู้บริหารของศรีลังกา ร่วมเป็นประธาน ซึ่งจะมีนิทรรศการพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า ประวัติพระอุบาลีมหาเถระ ความสัมพันธ์ครบ 260 ปี ลัทธิลังกาวงศ์ นิกายสยามวงศ์ พร้อมประดับธงฉัพพรรณรังสี ธงธรรมจักร การแสดงธรรม World music การแสดง แสง สี เสียง ชุด “ วิสาขบูชา อยุธยา มหาพุทธานุภาพ ” การสวดมนต์และสวดสรภัญญะของพระภิกษุไทย 89 รูป พระภิกษุศรีลังกา 10 รูป รวมถึง จะมีพระภิกษุจาก 83 ประเทศที่เข้าร่วมประชุมวันวิสาขบูชาโลก ที่องค์การสหประชาชาติ กรุงเทพมหานคร และพระภิกษุศรีลังกา 260 รูป เข้าชมนิทรรศการ ความสัมพันธ์อยุธยา-ศรีลังกา ในครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม การจัดงานของทั้งสองประเทศ ทางจังหวัดฯ จะประดับไฟสวยงามยิ่งใหญ่ตระการตา ตั้งแต่สะพานปรีดีธำรง ตลอดเส้นทางไปยังศาลากลางจังหวัดหลังเก่า ไปจนถึงวัดมหาธาตุ ด้วยบรรยากาศถนนคนเดิน ประดับไฟยิ่งใหญ่ตระการตา ให้ประชาชนได้เก็บภาพเป็นที่ระลึก
ที่มา >>> http://www.dailynews.co.th/thailand/204615