นพ.พิทยา ไพบูลย์ศิริ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า
ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เป็นช่วงเวลาของการส่งมอบความสุขให้กันและกัน จึงมีการมอบของขวัญให้กันและกัน ซึ่งในปัจจุบันการมอบกระเช้าของขวัญแบบสำเร็จรูปจึงเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีความสะดวกในการซื้อหาหลายราคา อีกทั้งสิ่งของที่บรรจุ
ภายในกระเช้ามีหลากหลาย เช่น ขนม นม เครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ อาหารกระป๋อง กระเช้าของขวัญในปัจจุบัน ห้างร้านหลายแห่งมักจะมีเหล้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
มาภายในกระเช้าด้วย ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551
การจัดจำหน่ายกระเช้าของขวัญสำเร็จรูปที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมอยู่ด้วย หรือ
การจัดกระเช้าของขวัญที่เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมด ไม่สามารถกระทำได้
เพราะเป็นความผิดตามมาตรา 30 (5) มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ อาจจะเป็นความผิด ตามมาตรา 32 กรณีที่มีการกระทำ
ที่เป็นการโฆษณาหรือสื่อสารการตลาดร่วมด้วย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน
5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และต้องระวางโทษปรับวันละไม่เกิน 5 หมื่นบาท
ตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืน จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย นพ.พิทยาฯ กล่าวต่อว่า ในทุกๆ ปี ช่วงวันหยุดยาวอย่างการเฉลิมฉลองส่งท้ายปลายปี ต่อเนื่องไปจนถึงวันขึ้นปีใหม่เป็นช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุจากการเมาสุราแล้วขับ สูงสุดดังนั้นในเทศกาลปีใหม่นี้ ไม่ควรมอบเหล้า หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่กัน แต่สิ่งที่ควรมอบให้กันในปีใหม่ ควรเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพของผู้รับและสุขใจผู้ให้ เช่น กระเช้าสุขภาพ
ผัก ผลไม้ และสิ่งของที่เราตั้งใจทำขึ้นเอง เพื่อให้ของขวัญนั้นมีคุณค่าแก่ผู้รับและร่วมสร้างสุขภาพที่ดีด้วยความรักอย่างยั่งยืน