ไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพประชุมยุทธศาสตร์และเป้าหมาย
แผน 5 ปี สุขภาพอาเซียน
นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการพัฒนาสาธารณสุขกลุ่มประเทศอาเซียน หรืออาเซียน ซอมเอชดี (ASEAN SOMHD) ให้สัมภาษณ์ว่า จากการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการพัฒนาสาธารณสุข ครั้งที่ 10 ของกลุ่มประเทศอาเซียน (The 10th Senior Officials Meeting on Health Development - SOMHD) ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับปลัดกระทรวงสาธารณสุข และอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศด้านสุขภาพของประเทศกลุ่มประชาคมอาเซียน 10 ประเทศร่วมประชุม เพื่อสรุปผลการดำเนินงานรอบปีที่ผ่านมา
นายแพทย์สุริยะกล่าวต่อว่า ในระยะ 1 ปีที่ผ่านมามีผลงานสำคัญ อาทิ การปรับโครงสร้างการบริหารและการทำงานของเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดความซ้ำซ้อน และรองรับการเป็นประชาคมอาเซียนในปลายปี 2558 ร่วมกับเสนอแผนการพัฒนาสุขภาพอาเซียน 5 ปี (2558–2563) เพื่อความยั่งยืนตามเป้าหมายที่องค์การสหประชาชาติกำหนด (Sustainable Development Goal post 2015) ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนรวม 20 ประเด็น อาทิ โรคติดต่อ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง การควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ การรับมือสังคมผู้สูงอายุ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โภชนาการ สุขภาพจิต อาหารปลอดภัย การแพทย์พื้นบ้าน เป็นต้น
ซึ่งประเทศไทยเป็นผู้นำในหลายประเด็น เช่น คณะทำงานผู้เชี่ยวชาญโรคติดต่ออาเซียน เครือข่ายระบาดวิทยาอาเซียนบวก 3 เครือข่ายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าอาเซียนบวก 3 ด้านการจัดการภัยพิบัติด้านสุขภาพและการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุอาเซียน การประเมินผลกระทบสุขภาพ และโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โดยจะมีการจัดประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์และเป้าหมาย20 ประเด็นในเดือนพฤศจิกายน 2558 ณ ประเทศไทย
สำหรับประเทศกลุ่มประชาคมอาเซียน 10 ประเทศ ประกอบด้วย บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ในการประชุมเจ้าหนาที่อาวุโสของอาเซียนจะมีการคัดเลือกประเทศเพื่อทำหน้าที่เป็นประธานและรองประธาน หมุนเวียนสับเปลี่ยนตามลำดับอักษรทุก 1 ปี
เมื่อปี 2557 ไทยได้รับเลือกเป็นประธาน และผู้แทนประเทศเวียดนามเป็นรองประธาน ในสมัยที่ผ่านมาได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเตรียมความพร้อมป้องกันโรคอีโบลาของประเทศสมาชิกอาเซียนบวก 3 เมื่อเดือนธันวาคม 2557 ซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างมาก ไม่พบผู้ป่วยโรคนี้ในภูมิภาค และจัดประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนป้องกันการแพร่ระบาดของโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือโรคเมอร์สในภูมิภาคเมื่อเดือนกรกฎาคม 2558 นับว่าเป็นการประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอระดับรัฐมนตรีครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียนและประสบความสำเร็จอย่างมาก