รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานร่วมพิธีเปิดโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนหงสา ณ สปป.ลาว
พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมคณะผู้บริหาร ให้เกียรติร่วมเป็นสักขีพยาน ในพิธีเปิดโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนหงสา แขวงไซยะบุรี สปป.ลาว อย่างเป็นทางการ โดยมีท่านคำมะนี อินทิราด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ พร้อมคณะ ให้การต้อนรับ
พลเอกอนันตพรฯ กล่าวตอนหนึ่งในพิธีเปิดว่า การขยายตัวของความต้องการด้านพลังงานของอาเซียน เป็นเรื่องที่สำคัญที่ประเทศสมาชิกได้หารือร่วมกัน เพื่อกำหนดแนวนโยบายการส่งเสริมความร่วมมือซึ่งเป็นการรวมพลังของทุกชาติใน ภูมิภาคนี้ในการร่วมกันจัดสรรและใช้ทรัพยากรพลังงานในอาเซียน ให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าที่สุด โดยการรวมตัวของตลาดพลังงานอย่างบูรณาการ เพื่อส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงานอย่างยั่งยืน ที่จะเกื้อหนุนให้เศรษฐกิจของอาเซียนพัฒนาได้ก้าวไกล
รมว.กระทรวง พลังงาน กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า ในปลายปีนี้จะเป็นการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ประเทศไทยได้เล็งเห็นโอกาสจากการบูรณาการความร่วมมือด้านพลังงานของประเทศอา เซียน โดยเฉพาะการเชื่อมโยงโครงข่ายระบบสายไฟฟ้าที่จะนำมาสู่การค้าขายไฟฟ้าข้าม พรมแดนระหว่างกันมากขึ้น ซึ่งมีการศึกษาความเป็นไปได้ในการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ไปยังสิงคโปร์ ผ่านโครงข่ายสายส่งของไทยและมาเลเซีย
ปัจจุบันระบบสาย ส่งของ สปป.ลาวได้เชื่อมต่อกับโครงข่ายสายส่งของไทย และระบบสายส่งของไทยก็เชื่อมต่อกับมาเลเซีย ขณะที่มาเลเซียก็เชื่อมต่อกับสิงคโปร์แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางในการแลกเปลี่ยน หรือซื้อขายพลังงานไฟฟ้าข้ามพรมแดนแบบพหุภาคี โดยกระทรวงพลังงานและ กฟผ.ได้เข้าร่วมในคณะทำงานชุดนี้ด้วย
นอกจากนี้ รมว.กระทรวงพลังงานยืนยันว่า จะเสริม สร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าของไทย โดยเตรียมแผนรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน นอกเหนือจากผลักดันเพิ่มสัดส่วนเชื้อเพลิงประเภทอื่น เพื่อลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า
สำหรับ โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนหงสา เป็นโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าโดยใช้ถ่านหิน ลิกไนต์เป็นเชื้อเพลิงหลัก ตั้งอยู่ที่เมืองหงสา แขวงไซยะบุรี ประเทศลาว มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งประมาณ 1,878 เมกะวัตต์ โดยจะผลิตไฟฟ้าเพื่อขายให้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นหลัก โดยมีการลงทุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้า 3,700 ล้านดอลลาร์ หุ้นส่วนลงทุนในโครงการคือ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง 40% , บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด 40% และ รัฐวิสาหกิจถือหุ้นลาว 20%