ระหว่างวันที่ 16 - 20 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา ตัวแทนจากแขวงไซยะบุรี แขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว ตัวแทนจากรัฐมอญ รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา เดินทางมาร่วมประชุมนานาชาติ "ระเบียงเศรษฐกิจ หลวงพระบาง อินโดจีน เมาะลำไย ภูดู่ ประตูแห่งมิตรภาพและโอกาส (LIMEC)" ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ณ จ.อุตรดิตถ์ โดยภาคเอกชนทั้ง 3 ประเทศ ได้เล็งเห็นโอกาสในการเชื่อมโยงเพื่อให้เกิดการเจริญเติบโตของธุรกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการศึกษา ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 อันประกอบด้วย จ.อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย และตาก รวมถึงประเทศลาวและเมียนมา เพื่อเป็นเวทีศึกษาความต้องการ ปัญหา อุปสรรค และแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจ รองรับศักยภาพในการเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจและเป็นประตูสู่ประชาคมอาเซียน
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ภาคเอกชนจาก 3 ประเทศ ได้ร่วมลงนามความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนบนระเบียงเศรษฐกิจ หลวงพระบาง อินโดจีน เมาะลำไย เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม รองรับการเปิดประตูสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปลายปีนี้
ทั้งนี้ ในปัจจุบันการค้าชายแดนด่านภูดู่เพิ่มขึ้นจากเดิมปีละประมาณ 200 - 300 ล้านบาท ขยับขึ้นมาถึงระดับ 700 - 1,000 ล้านบาท จากความได้เปรียบของทำเลที่ตั้งติดกับแขวงไซยะบุรี ซึ่งกำลังพัฒนาในทุกด้านและเชื่อมต่อไปยังแขวงหลวงพระบาง แหล่งท่องเที่ยวเมืองมรดกโลกของลาว ในอนาคต จ.อุตรดิตถ์ ได้กำหนดแนวทางการพัฒนาใน 4 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย