จัดระบบแรงงานต่างด้าว เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
นายธีรพล ขุนเมือง ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ปัจจุบันกิจการอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งการก่อสร้าง การเกษตร ปศุสัตว์ ประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่องประมง เป็นต้น ประเทศไทยประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานทั่วไปเป็นจำนวนมากถึงสองล้านกว่าคน รัฐบาลจึงได้เปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา เข้ามาทำงานได้ในตำแหน่งกรรมกรและผู้รับใช้ในบ้าน เพื่อแก้ไขปัญหาของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมดังกล่าว ซึ่งจะทำให้ภาคเศรษฐกิจของประเทศขับเคลื่อนต่อไปได้
ในการนี้ พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เร่งรัดให้แรงงานต่างด้าวเข้าสู่ระบบการจ้างงานที่ถูกต้อง โดยปัจจุบันมีแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการจ้างงานที่ถูกต้องตามกฎหมายกว่า 2 ล้านคน สามารถเก็บค่าธรรมเนียมเฉพาะการขออนุญาตปีละกว่า 3,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในกิจการประมงทะเลและแปรรูปสัตว์น้ำ กระทรวงแรงงานได้ขยายเวลาการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา ใน 2 กิจการหลัก คือ กิจการประมง จากเดิมการจดทะเบียนสิ้นสุดเมื่อ 30 มกราคม 2559 ขยายระยะเวลาเป็น 31 กรกฎาคม 2559 เมื่อขยายระยะเวลาแล้วแรงงานสามารถอยู่ในประเทศและทำงานได้ต่อจนถึง 31 มกราคม 2560 ส่วนกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ จากเดิมสิ้นสุดในการขอจดทะเบียนแรงงานต่างด้าววันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2559 ขยายเวลาจดทะเบียนถึงวันที่ 22 สิงหาคม 2559 และอนุญาตให้อยู่ในประเทศทำงานได้ถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งที่ผ่านมาทั้ง 2 กิจการนี้ สามารถสร้างรายได้ให้ประเทศกว่าปีละ 1 แสนล้านบาท