ข่าวที่ 18 / 2554
เรื่อง สปส.แจงสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ
ผู้ประกันตนส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคมตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินบำนาญรายเดือนตลอดชีวิต
นางเกษณี นิตินันท์ ประกันสังคมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า
เงินสมทบ 5% ของอัตราค่าจ้างทุกเดือนที่นายจ้าง ลูกจ้าง / ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบเข้า กองทุนประกันสังคม โดย 3% เก็บไว้เป็นเงินออมกรณีชราภาพ เช่น กรณีลูกจ้าง ที่มีค่าจ้าง เดือนละ 15,000 บาท ต้องถูกหักเงินสมทบ 15,000 × 5% = 750 บาท เงินสมทบที่ ลูกจ้างจ่าย 750 ทุกเดือน และนายจ้างต้องจ่ายสมทบอีก 750 บาท หักเป็นเงินออมกรณี ชราภาพ ของผู้ประกันตนจำนวน 450 บาทต่อเดือน รวมกับของนายจ้างอีก 450 บาท จะเท่ากับผู้ประกันตนมีเงินออมกรณีชราภาพเดือนละ 900 บาท เมื่อผู้ประกันตนอายุครบ 55 ปี ขึ้นไป และเกษียณจากการทำงาน ผู้ประกันตนจะได้รับเงินออมกรณีชราภาพ ตัวอย่างเช่น ผู้ประกันตนทำงานได้รับเงินค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท มาตลอด
และส่งเงินสมทบมาแล้ว 20 ปี อายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง จะได้รับเงินบำนาญชราภาพเดือนละเท่าใด และหากเสียชีวิตภายใน 5 ปี จะได้รับเงินหรือไม่ อย่างไร 1. ผู้ประกันตนจะได้รับเงินบำนาญ
= 15 ปี (แรก) ได้อัตราเงินบำนาญ 20%
= 5 ปี (หลัง) ได้อัตราเงินบำนาญ (1.5% (ปรับเพิ่ม) × 5ปี ) = 7.5%
รวมอัตราเงินบำนาญ 20 ปี = 20% + 7.5% = 27.5%
ผู้ประกันตนจะได้รับเงินบำนาญรายเดือน = 27.5% ของ 15,000 บาท
= 4,125 บาท/เดือนจนตลอดชีวิต
2. กรณีผู้ประกันตนที่ได้รับเงินบำนาญชราภาพเสียชีวิตภายใน 5 ปี ทายาทผู้มีสิทธิ
จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพจำนวน 10 เท่าของเงินบำนาญรายเดือน = 4,125 บาท × 10 เท่า
= 41,250 บาท
ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการจ่ายเงินสมทบรายเดือนกับกองทุนประกันสังคมนั้นมิได้
สูญเปล่า เพราะนอกจากจะได้รับสิทธิประโยชน์ระหว่างการทำงานมากมายแล้ว เมื่อถึง วัยเกษียณก็ยังคง อุ่นใจได้ว่ามีเงินออมชราภาพไว้เป็นหลักประกัน หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัด
พระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์หมายเลข 035-213416-8 สาขาอำเภออุทัย หมายเลข 035-800812-9 หรือโทร.1506 (เจ้าหน้าที่ให้บริการทุกวัน เวลา 07.00 – 19.00 น. ระบบโทรศัพท์ตอบรับอัตโนมัติให้บริการ24 ชั่วโมง) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่ www.sso.go.th {w{w{w{w{
|